การพูดไม่ชัด
การพูดไม่ชัด
เป็นความผิดปกติเกี่ยวกับการเปล่งเสียงพูด ซึ่งมีทั้งเสียงสระ พยัญชนะ และเสียงวรรณยุกต์
ลักษณะการพูดไม่ชัด
แบ่งได้ออกเป็น 4 ลักษณะ
พูดอออกเสียงโดยใช้เสียงพยัญชนะหรือเสียงสระอื่นแทนเสียงที่ควรพูด เช่น ใช้ อ อ่าง แทน ก ไก่ เมื่อพูดคำว่า “ไก่” จึงออกเสียงเป็น “ไอ่” หรือใช้สระ เอ แทน สระ แอ พูด “เกง” แทน “แกง”
พูดออกเสียงไม่ครบทุกเสียง มีการเว้นไม่ออกเสียงพยัญชนะบางเสียง เช่น “กลาง” พูดเป็น “กาง” “นอน” พูดเป็น “นอ”
พูดผิดเพี้ยนไปจนฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงสระ หรือเสียงพยัญชนะใด
พูดเติมเสียงสระ หรือพยัญชนะเข้าไปในคำ เช่น พูด “กะริน” แทน “กิน”
สาเหตุการพูดไม่ชัด
1. โครงสร้าง หรือการทำงานของอวัยวะเกี่ยวกับการพูด หรือการฟังผิดปกติ ได้แก่
เกิดความบกพร่องในการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อที่ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการพูด ได้แก่ ลิ้น เพดานอ่อน หรือลิ้นไก่ เป็นอัมพาตอ่อนแรง ทำให้ออกเสียงพยัญชนะ และสระผิดเพี้ยนไป
ปากแหว่ง เพดานโหว่ ทำให้พูดไม่ชัด เพราะเด็กใช้อวัยวะไม่ถูกต้องในการออกเสียงพูด การพูดไม่ชัด ในกรณีนี้เป็นปัญหาร่วมกับการพูดเสียงขึ้นจมูก
มีความผิดปกติที่อวัยวะในช่องปาก เช่น เส้นยึดใต้ลิ้นสั้นมาก เพดานโหว่
หูพิการ ไม่ได้ยินเสียงพูดของผู้อื่นหรือได้ยินแต่ไม่ชัดทำให้การเลียนแบบไม่ถูกต้อง ตัวผู้พูดเองไม่ได้ยินเสียงของตนเอง ทำให้ไม่สามารถปรับการพูดของตนเองให้ถูกต้อง ชัดเจน
ปัญญาอ่อน เด็กที่ระดับสติปัญญาไม่ดี มักมีปัญหาการพูดไม่ชัด
2. การเรียนรู้การพูดไม่ถูกต้อง
เด็กจำนวนมากพูดไม่ชัดเนื่องจากสาเหตุเด็กเหล่านี้มีโครงสร้างและการทำงานของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการพูดเป็นปกติ บางรายอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น อยู่กับคนที่พูดไม่ชัด ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดไม่ได้ กระตุ้นให้เด็กพูดให้ถูกต้องชัดเจนตั้งแต่แรก เด็กขาดโอกาสในการเลียนแบบการพูดที่ดี สิ่งแวดล้อม และการเลี้ยงดูจึงมีส่วนในการทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้การพูดไม่ชัดเจนติดเป็นนิสัย
เกณฑ์การพิจารณาการพูดไม่ชัด
ได้มีผู้ทำการศึกษาเรื่องการออกเสียงพูดของเด็กช่วงอายุต่างๆ พบว่า เด็กสามารถออกเสียงสระได้ชัดเจนทุกเสียง และผันวรรณยุกต์ได้ทุกเสียง ตั้งแต่อายุก่อน 3-5 ปี ส่วนเสียงพยัญชนะ มีลำดับขั้นพัฒนาการดังนี้
พัฒนาการด้านการออกเสียง
อายุ เสียงที่ออกไม่ชัด
2.1-2.6 เดือน
2.7-3 เดือน
3.1-3.6 เดือน
3.7-4 เดือน
4.1-4.6 เดือน
4.7-5 เดือน
5.1-5.6 เดือน
อายุ 7 ปี ขึ้นไป ม น ห ย ค อ
เพิ่มเสียง ว บ ป ก
เพิ่มเสียง ท ต ล จ พ
เพิ่มเสียง ง ด
เพิ่มเสียง ฟ
เพิ่มเสียง ช
เพิ่มเสียง ส
เพิ่มเสียง ร
พัฒนาการของการออกเสียงสระ พยัญชนะ และวรรณยุกต์ ของเด็กไทย สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าเด็กรายใดที่พูดไม่ชัด สมควรจะต้องได้รับการแก้ไขด้วยการฝึกพูด
การฝึกพูด
เมื่อผู้ที่พูดไม่ชัดได้รับการทดสอบจากนักแก้ไขการพูดและได้รับคำแนะนำให้เด็กมาฝึกพูดแล้ว นักแก้ไขการพูดจะฝึกให้เด็กออกเสียงสระ หรือเสียงพยัญชนะแต่ละเสียงโดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับฐานเสียงจากอวัยวะต่างๆ ลักษณะในการเปล่งเสียงพูดออกมา การวางลิ้นให้ถูกต้องตามตำแหน่งในการออกเสียงและลักษณะของลมหายใจ ตลอดจนทิศทางของลมในช่องปากขณะออกเสียงพยัญชนะ หรือสระแต่ละเสียงสอนให้รู้จักฟังเปรียบเทียบเสียงพูดของตนเองกับผู้สอน หรือเปรียบเทียบกับเสียงที่ถูกต้องชัดเจน การฝึกจะทำตั้งแต่ระดับที่เป็นหน่วยเสียงจนเป็นคำ วลี ประโยค ให้เด็กสามารถออกเสียงได้ถูกต้องทุกระดับ ตั้งแต่สามารถออกเสียงได้ถูกต้องเมื่ออยู่ในห้องฝึกจนกว่าจะใช้เสียงที่แก้ไขนั้นได้ในการพูดคุยสนทนาในชีวิตประจำวัน
ในรายที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการฝึกจากนักแก้ไขการพูด พ่อแม่ หรือผู้ปกครองเด็กจะได้รับคำแนะนำการปฏิบัติต่อเด็กขณะอยู่บ้าน ดังนี้
1. ควรกระตุ้นการพูดให้ชัดเจนด้วยการให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเด็กพูดให้ชัดเจนเป็นตัวอย่าง
2. เตือนเด็กเมื่อเด็กพูดไม่ชัด แต่ไม่ให้ดุว่า หรือเคี่ยวเข็ญเด็กให้พูดให้ชัด
3. ไม่ล้อเลียนการพูดไม่ชัดของเด็ก
ส่วนมากเด็กที่พูดไม่ชัดในช่วงอายุ 3-4 ปี จะมีพัฒนาการจากการกระตุ้นเองที่บ้าน ถ้าเกินกว่าช่วงอายุนี้แล้ว ควรแก้ไขด้วยการฝึกพูดจากนักแก้ไขการพูด
คัดลอกมาจาก งานอรรถบำบัด สถาบันราชานุกูล
เป็นความผิดปกติเกี่ยวกับการเปล่งเสียงพูด ซึ่งมีทั้งเสียงสระ พยัญชนะ และเสียงวรรณยุกต์
ลักษณะการพูดไม่ชัด
แบ่งได้ออกเป็น 4 ลักษณะ
พูดอออกเสียงโดยใช้เสียงพยัญชนะหรือเสียงสระอื่นแทนเสียงที่ควรพูด เช่น ใช้ อ อ่าง แทน ก ไก่ เมื่อพูดคำว่า “ไก่” จึงออกเสียงเป็น “ไอ่” หรือใช้สระ เอ แทน สระ แอ พูด “เกง” แทน “แกง”
พูดออกเสียงไม่ครบทุกเสียง มีการเว้นไม่ออกเสียงพยัญชนะบางเสียง เช่น “กลาง” พูดเป็น “กาง” “นอน” พูดเป็น “นอ”
พูดผิดเพี้ยนไปจนฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงสระ หรือเสียงพยัญชนะใด
พูดเติมเสียงสระ หรือพยัญชนะเข้าไปในคำ เช่น พูด “กะริน” แทน “กิน”
สาเหตุการพูดไม่ชัด
1. โครงสร้าง หรือการทำงานของอวัยวะเกี่ยวกับการพูด หรือการฟังผิดปกติ ได้แก่
เกิดความบกพร่องในการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อที่ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการพูด ได้แก่ ลิ้น เพดานอ่อน หรือลิ้นไก่ เป็นอัมพาตอ่อนแรง ทำให้ออกเสียงพยัญชนะ และสระผิดเพี้ยนไป
ปากแหว่ง เพดานโหว่ ทำให้พูดไม่ชัด เพราะเด็กใช้อวัยวะไม่ถูกต้องในการออกเสียงพูด การพูดไม่ชัด ในกรณีนี้เป็นปัญหาร่วมกับการพูดเสียงขึ้นจมูก
มีความผิดปกติที่อวัยวะในช่องปาก เช่น เส้นยึดใต้ลิ้นสั้นมาก เพดานโหว่
หูพิการ ไม่ได้ยินเสียงพูดของผู้อื่นหรือได้ยินแต่ไม่ชัดทำให้การเลียนแบบไม่ถูกต้อง ตัวผู้พูดเองไม่ได้ยินเสียงของตนเอง ทำให้ไม่สามารถปรับการพูดของตนเองให้ถูกต้อง ชัดเจน
ปัญญาอ่อน เด็กที่ระดับสติปัญญาไม่ดี มักมีปัญหาการพูดไม่ชัด
2. การเรียนรู้การพูดไม่ถูกต้อง
เด็กจำนวนมากพูดไม่ชัดเนื่องจากสาเหตุเด็กเหล่านี้มีโครงสร้างและการทำงานของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการพูดเป็นปกติ บางรายอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น อยู่กับคนที่พูดไม่ชัด ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดไม่ได้ กระตุ้นให้เด็กพูดให้ถูกต้องชัดเจนตั้งแต่แรก เด็กขาดโอกาสในการเลียนแบบการพูดที่ดี สิ่งแวดล้อม และการเลี้ยงดูจึงมีส่วนในการทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้การพูดไม่ชัดเจนติดเป็นนิสัย
เกณฑ์การพิจารณาการพูดไม่ชัด
ได้มีผู้ทำการศึกษาเรื่องการออกเสียงพูดของเด็กช่วงอายุต่างๆ พบว่า เด็กสามารถออกเสียงสระได้ชัดเจนทุกเสียง และผันวรรณยุกต์ได้ทุกเสียง ตั้งแต่อายุก่อน 3-5 ปี ส่วนเสียงพยัญชนะ มีลำดับขั้นพัฒนาการดังนี้
พัฒนาการด้านการออกเสียง
อายุ เสียงที่ออกไม่ชัด
2.1-2.6 เดือน
2.7-3 เดือน
3.1-3.6 เดือน
3.7-4 เดือน
4.1-4.6 เดือน
4.7-5 เดือน
5.1-5.6 เดือน
อายุ 7 ปี ขึ้นไป ม น ห ย ค อ
เพิ่มเสียง ว บ ป ก
เพิ่มเสียง ท ต ล จ พ
เพิ่มเสียง ง ด
เพิ่มเสียง ฟ
เพิ่มเสียง ช
เพิ่มเสียง ส
เพิ่มเสียง ร
พัฒนาการของการออกเสียงสระ พยัญชนะ และวรรณยุกต์ ของเด็กไทย สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าเด็กรายใดที่พูดไม่ชัด สมควรจะต้องได้รับการแก้ไขด้วยการฝึกพูด
การฝึกพูด
เมื่อผู้ที่พูดไม่ชัดได้รับการทดสอบจากนักแก้ไขการพูดและได้รับคำแนะนำให้เด็กมาฝึกพูดแล้ว นักแก้ไขการพูดจะฝึกให้เด็กออกเสียงสระ หรือเสียงพยัญชนะแต่ละเสียงโดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับฐานเสียงจากอวัยวะต่างๆ ลักษณะในการเปล่งเสียงพูดออกมา การวางลิ้นให้ถูกต้องตามตำแหน่งในการออกเสียงและลักษณะของลมหายใจ ตลอดจนทิศทางของลมในช่องปากขณะออกเสียงพยัญชนะ หรือสระแต่ละเสียงสอนให้รู้จักฟังเปรียบเทียบเสียงพูดของตนเองกับผู้สอน หรือเปรียบเทียบกับเสียงที่ถูกต้องชัดเจน การฝึกจะทำตั้งแต่ระดับที่เป็นหน่วยเสียงจนเป็นคำ วลี ประโยค ให้เด็กสามารถออกเสียงได้ถูกต้องทุกระดับ ตั้งแต่สามารถออกเสียงได้ถูกต้องเมื่ออยู่ในห้องฝึกจนกว่าจะใช้เสียงที่แก้ไขนั้นได้ในการพูดคุยสนทนาในชีวิตประจำวัน
ในรายที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการฝึกจากนักแก้ไขการพูด พ่อแม่ หรือผู้ปกครองเด็กจะได้รับคำแนะนำการปฏิบัติต่อเด็กขณะอยู่บ้าน ดังนี้
1. ควรกระตุ้นการพูดให้ชัดเจนด้วยการให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเด็กพูดให้ชัดเจนเป็นตัวอย่าง
2. เตือนเด็กเมื่อเด็กพูดไม่ชัด แต่ไม่ให้ดุว่า หรือเคี่ยวเข็ญเด็กให้พูดให้ชัด
3. ไม่ล้อเลียนการพูดไม่ชัดของเด็ก
ส่วนมากเด็กที่พูดไม่ชัดในช่วงอายุ 3-4 ปี จะมีพัฒนาการจากการกระตุ้นเองที่บ้าน ถ้าเกินกว่าช่วงอายุนี้แล้ว ควรแก้ไขด้วยการฝึกพูดจากนักแก้ไขการพูด
คัดลอกมาจาก งานอรรถบำบัด สถาบันราชานุกูล
บทความข้างต้นนี้ ให้แง่คิดเกี่ยวกับ การดูแลลูกๆในการพูด เพื่อให้ลูกของคุณแม่มีพัฒนาการทางภาษาอย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น